ICSI สามารถช่วยปัญหาการเจริญพันธุ์ได้อย่างไร?
ICSI (Intracytoplasmic Sperm Injection) เป็นวิธีการรักษาปัญหาการเจริญพันธุ์ที่มีความใกล้เคียงกับ IVF แต่มีความแตกต่างในกระบวนการปฏิสนธิระหว่างไข่และอสุจิ โดยใน ICSI จะมีการเลือกอสุจิทีละตัว (1 อสุจิต่อ 1 ไข่) และฉีดอสุจิเข้าไปในไข่โดยตรง ซึ่งเป็นกระบวนการที่ทำโดยนักวิทยาศาสตร์ หลังจากนั้นจะมีการเพาะเลี้ยงตัวอ่อนประมาณ 2-6 วัน ก่อนที่จะนำไปฝังในมดลูก การใช้ ICSI จึงเป็นทางเลือกที่เหมาะสมสำหรับผู้ที่มีปัญหาการเจริญพันธุ์ที่เกี่ยวข้องกับคุณภาพของอสุจิ โดยเฉพาะในกรณีที่มีจำนวนอสุจิต่ำหรืออสุจิไม่สามารถเคลื่อนไหวได้อย่างเหมาะสม กระบวนการ ICSI เริ่มต้นด้วยการปรึกษาเพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการรักษา ซึ่งรวมถึงการตรวจสุขภาพของทั้งชายและหญิง เช่น การตรวจเลือดเพื่อวัดระดับฮอร์โมน AMH ที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพของรังไข่และจำนวนไข่เริ่มต้น รวมถึงการวิเคราะห์น้ำอสุจิเพื่อตรวจสอบปริมาณและคุณภาพของอสุจิ หลังจากนั้นจะมีการกระตุ้นการตกไข่ด้วยยาควบคุมการตกไข่ และเก็บไข่และอสุจิเพื่อเตรียมสำหรับ ICSI การเพาะเลี้ยงตัวอ่อนจนถึงระยะ blastocyst และการเตรียมผนังมดลูกให้พร้อมสำหรับการฝังตัวอ่อนก็เป็นขั้นตอนที่สำคัญในกระบวนการนี้ ICSI เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาการเจริญพันธุ์ที่เกี่ยวข้องกับคุณภาพของอสุจิ เช่น ในกรณีที่มีจำนวนอสุจิต่ำ อสุจิไม่สามารถเคลื่อนไหวได้อย่างเหมาะสม หรือมีการเก็บอสุจิจาก epididymis หรือ testes นอกจากนี้ยังเหมาะสำหรับผู้หญิงที่มีท่อนำไข่ถูกปิดหรือถูกตัด และผู้ที่เคยมีปัญหาการปฏิสนธิล้มเหลวจากการใช้ IVF แบบธรรมดา การใช้เทคนิค ICSI จึงสามารถช่วยเพิ่มโอกาสในการตั้งครรภ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
เรียนรู้เพิ่มเติม