การรักษา IVF แตกต่างจาก IUI อย่างไร?

การรักษา IVF (In Vitro Fertilization) และ IUI (Intrauterine Insemination) มีความแตกต่างกันในหลายด้าน โดยเฉพาะในกระบวนการและเทคนิคที่ใช้ในการช่วยให้เกิดการตั้งครรภ์ ในกรณีของ IVF ผู้หญิงจะต้องได้รับการกระตุ้นด้วยการฉีดยาเพื่อกระตุ้นการผลิตไข่จากรังไข่ ซึ่งกระบวนการนี้ใช้เวลาประมาณ 8-15 วัน โดยปกติแล้วจะได้ไข่มากกว่าการทำ IUI เนื่องจากใน IVF จะมีการเก็บไข่จากรังไข่หลายใบและนำไปทำการปฏิสนธิในห้องปฏิบัติการ โดยนักวิทยาศาสตร์จะนำไข่ที่เก็บได้มาวางบนจานเพาะเลี้ยงและปล่อยให้สเปิร์มว่ายไปหาตัวไข่เอง ซึ่งจะทำให้เกิดการปฏิสนธิและพัฒนาเป็นตัวอ่อน ก่อนที่จะนำตัวอ่อนนี้ไปฝังในมดลูกของผู้หญิงในระยะเวลา 2-6 วันหลังจากนั้น ในทางกลับกัน IUI เป็นกระบวนการที่ง่ายกว่า โดยจะมีการนำสเปิร์มที่เตรียมไว้แล้วไปใส่ในมดลูกของผู้หญิงในช่วงเวลาที่ไข่กำลังตกไข่ การทำ IUI ไม่จำเป็นต้องมีการกระตุ้นไข่ด้วยการฉีดยาเหมือนกับ IVF ซึ่งทำให้กระบวนการนี้ใช้เวลาน้อยกว่าและมีความซับซ้อนน้อยกว่า แต่การทำ IUI มักจะเหมาะสำหรับคู่รักที่มีปัญหาการตั้งครรภ์ที่ไม่รุนแรง เช่น ผู้หญิงที่มีการตกไข่ปกติและผู้ชายที่มีสเปิร์มในปริมาณที่เพียงพอ นอกจากนี้ IVF ยังเหมาะสำหรับผู้หญิงที่มีท่อนำไข่ที่อุดตันหรือถูกตัดออก รวมถึงคู่รักที่พยายามตั้งครรภ์ตามธรรมชาติเป็นเวลานานแต่ไม่สำเร็จ หรือคู่รักที่เคยทำ IUI มาแล้วแต่ไม่ประสบความสำเร็จ ในขณะที่อัตราความสำเร็จของ IVF อยู่ที่ประมาณ 40%-50% ต่อรอบการรักษา ขึ้นอยู่กับอายุและคุณภาพของเซลล์สืบพันธุ์ของผู้ป่วย ซึ่งทำให้ IVF เป็นทางเลือกที่มีประสิทธิภาพสำหรับผู้ที่มีปัญหาการตั้งครรภ์ที่ซับซ้อนมากขึ้น

เรียนรู้เพิ่มเติม